วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สังฆภัณฑ์


สังฆภัณฑ์




มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาและความหมายกันนะค่ะ


     สังฆภัณฑ์ คือ เครื่องใช้ในกิจของพระสงฆ์ แต่หากจะพูดให้กว้างขึ้น สังฆภัณฑ์ ยังรวมเอาเครื่องใช้สำหรับพิธีการทางศาสนาเข้าไปด้วย เช่น โต๊ะหมู่บูชา เครื่องบูชา เครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป รูปเหมือนต่างๆเป็นต้น

     บุญ มาจากศัพท์ภาษาบาลีว่า "ปุญญะ" แปลว่า เครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ บุญเป็นเครื่องกำจัดสิ่งเศร้าหมองที่เรียกว่า กิเลส ดังนั้น การทำบุญจึงเป็นการช่วยลด ละ เลิก คามโลภ ความเห็นแก่ตัว ทำให้ใจเป็นอิสระ พร้อมก้าวต่อไปในคุณความดีอย่างอื่น เมื่อเวลาเราทำบุญ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การตักบาตรพระ หรือเข้าวัดทำบุญถวายไทยทาน หรือ สังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์

      การถวายทาน เป็นการถวายวัตถุที่ควรให้เป็นทานแก่พระภิกษุ สามเณร เพื่อใช้สอยหรือบูชาพระตามสมควร การถวายทานแบ่งได้เป็น 2 อย่าง คือ
      1. ถวายเจาะจงเฉพาะรูปนั้นรูปนี้อย่างหนึ่ง เรียกว่า ปาฎิบุคลิกทาน สำหรับการถวายทานประเภทนี้ไม่จำต้องมีพิธีกรรมอะไรในการถวาย เพราะผู้ถวายเกิดศรัทธา จะถวายสิ่งใดแก่ภิกษุหรือสามเณรรูปใด ก็จัดสิ่งนั้นมอบถวายเฉพาะรูปนั้นเป็นรายบุคคล สำเร็จเป็นทานแล้วและผู้รับปาฎิบุคคลทาน จะอนุโมทนาอย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลเช่นกัน แต่มีอานิสงส์น้อยกว่า เพราะเป็นการให้ทานโดยจำกัดเฉพาะบุคคลว่าต้องเป็นผู้นั้นผู้นี้
      2. ถวายไม่เจาะจงรูปใด มอบเป็นของกลาง ให้สงฆ์จัดเฉลี่ยกันใช้สอยเอง อีกอย่างหนึ่งเรียกว่า สังฆทาน เป็นการถวายสิ่งของแก่หมู่พระภิกษุสงฆ์ เป็นการถวายโดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เม่อถวายแล้วก็ให้ถือว่า พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปมีสิทธิ์ใช้สอยสิ่งของเหล่านั้นตามสะดวกอาจจะเพียงตัวแทนสงฆ์เพียงรูปเดียวมารับประเคน ก็ถือว่าเป็นสังฆทานเหมือนกัน

บุญสังฆทาน
       สังฆทาน คือ พิธีกรรมการถวายไทยทานหรือวัตถุสิ่งของ ข้าว ผ้า ยา น้ำ ฯลฯ แก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งถือเป็นบุญนิยม ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่ามักจะทำกันเป็นประจำ จนกลายเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ที่จำเป็นในการทำบุญของชายพุทธไทยปัจจุบัน มูลเหตุของการถวายสังฆทาน ปรากฎในพระไตรปิฏกเล่มที่ 14 ทักขิณาวิภังคสูตร ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงการจำแนกทักษิณาทาน โดยมีเรื่องเล่าว่า สมัยที่พระพุทธองค์เสร็จประทับ ณ วัดนิโครธาราม เขตเมื่องกบิลพัสดุ์ พระนางมหาปชาบดีโครตมี พระมารดาเลี้ยงของพระพุทธองค์ เสร็จมาเฝ้าพร้อมกับผ้าใหม่คู่หนึ่งซึ่งทรงทอด้วยพระหัตถ์ของพระนางเอง ทรงตั้งพระทัยจะถวายเจาะจงพระพุทธเจ้าเท่านั้น ทรงน้อมผ้าคู่นั้นเข้าไปถวายพร้อมกับกราบทูลว่า ขอพระพุทธองค์ทรงปฎิเสธพร้อมกับพระดำรัสว่า ขอพระนางจงถวายแก่สังฆ์เถิด เมื่อสงฆ์รับแล้วผ้าคู่นี้ก็จักเป็นการบูชาทั้งอาตมาภาพและสงฆ์ เมื่อทรงสดับเช่นนั้น พระนางก็ไม่ทรงละความพยายาม ทรงน้อยผ้าคู่นั้นเข้าถวายอีกถึง 3 ครั้ง แต่พระพุทธองค์ก็ทรงปฎิเสธเหมือนเดิมถึง 3 ครั้งเช่นกัน จนท่านพระอานนท์ทนไม่ไหว ต้องกราบทูลพระพุทธองค์ขึ้นว่า ขอพระพุทธองค์ได้โปรดอนุเคราะห์พระน้านาง ด้วยการรับผ้านี้ด้วยเถิด เพราะพระนางมีบุญคุณใหญ่หลวงนัก นับตั้งแต่พระพุทธมารดาเสด็จสวรรคต พระนางก็ทรงอภิบาลฟูมฟัก ถวายพระเกษัยรธาร (น้ำนม) จากพระอุระของพระนางเอง พระนางทรงเป็นบุพการีบุคคล พระพุทธเข้าข้า แม้ท่านพระอานนท์จะกราบทูลรบเร้าอย่างไร พระพุทธองค์ก็ทรงยืนยันพระดำรัสเดิม คือ ตรัสแนะนำให้นางถวายผ้านั้นเป็นสังฆทาน เมื่อเป็นเช่นนี้ พระนางมหาปชาคีโคตมี ทรงโทมนัสพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อต้องการจะอนุเคราะห์พระนาง พระพุทธองค์จึงทรงแสดงธรรมยกย่องว่า สังฆทาน การถวายทานเจาะจงสงฆ์โดยส่วนรวม มีผลมากกว่าการปฎิบุคคลิกทานทุกประเภท จนพระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงเข้าพระทัยแจ่มแจ้ง จางคลายจากความเศร้าโศก ได้น้อมถวายผ้าคู่นั้นถวายแก่คณะสงฆ์ กลายเป็นตัวอย่างการถวายสังฆทานสืบต่อกันมา แต่ในปัจจุบัน มีชาวพุทธไทยส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจและรู้เพียงว่า สังฆทาน คือ ทานที่ถวานแก่พระสงฆ์ เพื่อประกอบพิธีกรรมต่างๆเช่น ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เสริมราศี เมื่อเวลาที่เกิดเคราะห์หามยามร้าย ป่วยไข้ หรือถูกหมอดูทักว่า ดวงไม่ดี ซึ่งพิจราณาดูจะพบว่าไม่มีปรากฎตัวอย่างในพระไตรปิฏกเลย แต่กลับได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป
   
 
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์




ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น