ศาสนา เรารับศาสนาพุทธมาจากอินเดีย ซึ่งอิทธิพลของศาสนาพุทธมีต่อคนไทย อย่างมาก ทั้งในด้านการปกครอง และในด้านกิริยามารยาท และความเป็นอยู่จนกลายเป็นธรรมเนียมไทยไป ส่วนคติความเชื่อในการประกอบพิธีกรรมต่างๆของพราหมณ์ ไทยก็นำมาปฎิบัติไม่น้อย เช่น การโกนจุก การหมั้น ฯลฯ
การปกครอง สมัยสุโขทัย เรามีการปกครองแบบของตนเอง คือ แบบพ่อปกครองลูก แต่ปลายสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา มีอิทธิพลของขอมเข้ามาแทรกแซง ทำให้รูปการปกครอง ได้เปลี่ยนจากแบบพ่อปกครองลูกมาเป็นข้ากับเจ้า หรือบ่าวกับนาย ซึ่งขอมก็รับการปกครองมาจากอินเดียอีกทอดหนึ่ง โดยถือว่ากษัตริย์เป็นสมมติเทพ ภายหลังเรารับอารยธรรมของตะวันตก จึงเปลี่ยนการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ศิลปกรรม สมัยสุขโขทัย มีศิลปกรรมเป็นของตนเอง งดงาม และค่อนข้างเป็นแบบไทยแท้ แต่เมื่อไทยได้รับพระพุทธศาสนาลัทธิหินยานนิกายลังกาวงศ์ ศิลปกรรมของลังกา จึงเข้ามามีอิทธิพลในศิลปะของสุโขทัย โดยเฉพาะ "เจดีย์" ส่วนคติการสร้าง "วัด" หรือ การสร้างพระพุทธรูปเรารับมาจากอินเดีย พอถึงสมัยอยุธยาอิทธิพลของขอมมีมากในรูปการสร้าง "พระปรางค์"
วรรณกรรม ของอินเดียมักเกี่ยวกับศาสนาหรือยกย่องเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ซึ่งคติความเชื่อในเรื่องนี้มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมหรือพื้นฐานความเชื่อของไทย เช่น การมีใจเมตตาเอื้อเฟื้อให้ทาน ความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ การเชื่่อฟังผู้ปกครอง ความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ การให้อภัยต่อกัน เป็นต้น
ภาษา สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น โดยได้รับอิทธิพลจากตักอักษรขอม นอกเหนือจากภาษาขอมแล้วเรายังนิยมใช้ภาษาบาลี และ สันสกฤต ซึ่งเป็นผล จากการเผยแผ่ ศาสนาพุทธ และ ศาสนาพาหมณ์ เมื่อเรารับศาสนาเขา เราก็รับภษาของเขามาใช้ในภาษาไทยด้วย สมัยอยุธยาเรารับการปกครองแบบสมมติเทพจากขอม เราจึงรับภาษขอมมาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะคำราชาศัทพ์ ส่วนชาวจีนเราต้องอาศัยในการเดินเรือค้าขายและรับเอาภาษาจีนมาใช้ในการเรียกตำแหน่งต่างๆ เช่น จุ้นจู๊ นายสำเภา ไต้ก๋ง เป็นต้น ปัจจุบันเรายอมรับภาษาอื่นๆมาใช้บ้าง เพื่อความเข้าใจต่อกันและเพื่อความรู้ เช่น ภาษาอังกฤษ เป็นต้น
หัตถกรรม สมัยพ่อขุนรามคำแหงมีช่างจีนมาสอนทำเรื่องปั้นดินเผา สมัยอยุธยาบางท่านกล่าวว่า เราคงได้ความคิดในการประดิษฐ์ ลายประดับมุกจากจีน แต่ปัจจุบัน เรานิยมทำเครื่องถ้วยชามด้วยเครื่องจักรแบบตะวันตกไม่น้อย
ขนบธรรมเนียมประเพณี ไทยในสมัยอยุธยาได้คติความเชื่อจากขอมที่ถือกษัติรย์เป็นสมมติเทพ ทำให้มีการใช้ราชาศัพท์และพิธีการต่างๆในราชสำนัก นอกนั้นประเพณีไม่น้อยได้เข้ามาผสมผสานในหลายเรื่อง เช่น การแต่งงานแบบไทยแต่เลี้ยงแบบฝรั่ง หรือการจับมือกันแทนไหว้ในบางโอกาส
ระยะหลัง สังคมไทยมีการติดต่อกับประเทศที่เจริญกว่ามากขึ้น โดยเฉพาะประเทศตะวันตก และยิ่งเราติดต่อมากขึ้นเท่าไหรเราก็ยิ่งรับอารยธรรมจากเขามากขึ้นเท่านั้น วิถีชีวิตเป็นอยู่จึงเปลี่ยนไปจากเดิมในหลายด้าน
สรุปแล้ว วัฒนธรรมไทยในอดีตและปัจจุบันมีอิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติไม่มากก็น้อย เป็นการผสมผสานกับวัฒนธรรมของเราเองที่มีมาแต่ดั้งเดิม คือเรายอมรับเอาวัฒธรรมที่ดีของชาติอื่นที่เราติดต่อด้วยมาเป็นของเราบ้าง ดัดแปลงบ้าง ให้เข้ากับความเชื่อของไทย จนเป็นวัฒนธรรมที่มีลักษณะแตกต่างกับชาติอื่นๆ โดยในแต่ละยุคแต่ละสมัย ได้พยายามส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมที่ดีงามเหล่านี้ตลอดมา
ศิลปกรรม สมัยสุขโขทัย มีศิลปกรรมเป็นของตนเอง งดงาม และค่อนข้างเป็นแบบไทยแท้ แต่เมื่อไทยได้รับพระพุทธศาสนาลัทธิหินยานนิกายลังกาวงศ์ ศิลปกรรมของลังกา จึงเข้ามามีอิทธิพลในศิลปะของสุโขทัย โดยเฉพาะ "เจดีย์" ส่วนคติการสร้าง "วัด" หรือ การสร้างพระพุทธรูปเรารับมาจากอินเดีย พอถึงสมัยอยุธยาอิทธิพลของขอมมีมากในรูปการสร้าง "พระปรางค์"
วรรณกรรม ของอินเดียมักเกี่ยวกับศาสนาหรือยกย่องเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ซึ่งคติความเชื่อในเรื่องนี้มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมหรือพื้นฐานความเชื่อของไทย เช่น การมีใจเมตตาเอื้อเฟื้อให้ทาน ความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ การเชื่่อฟังผู้ปกครอง ความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ การให้อภัยต่อกัน เป็นต้น
ภาษา สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น โดยได้รับอิทธิพลจากตักอักษรขอม นอกเหนือจากภาษาขอมแล้วเรายังนิยมใช้ภาษาบาลี และ สันสกฤต ซึ่งเป็นผล จากการเผยแผ่ ศาสนาพุทธ และ ศาสนาพาหมณ์ เมื่อเรารับศาสนาเขา เราก็รับภษาของเขามาใช้ในภาษาไทยด้วย สมัยอยุธยาเรารับการปกครองแบบสมมติเทพจากขอม เราจึงรับภาษขอมมาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะคำราชาศัทพ์ ส่วนชาวจีนเราต้องอาศัยในการเดินเรือค้าขายและรับเอาภาษาจีนมาใช้ในการเรียกตำแหน่งต่างๆ เช่น จุ้นจู๊ นายสำเภา ไต้ก๋ง เป็นต้น ปัจจุบันเรายอมรับภาษาอื่นๆมาใช้บ้าง เพื่อความเข้าใจต่อกันและเพื่อความรู้ เช่น ภาษาอังกฤษ เป็นต้น
หัตถกรรม สมัยพ่อขุนรามคำแหงมีช่างจีนมาสอนทำเรื่องปั้นดินเผา สมัยอยุธยาบางท่านกล่าวว่า เราคงได้ความคิดในการประดิษฐ์ ลายประดับมุกจากจีน แต่ปัจจุบัน เรานิยมทำเครื่องถ้วยชามด้วยเครื่องจักรแบบตะวันตกไม่น้อย
ขนบธรรมเนียมประเพณี ไทยในสมัยอยุธยาได้คติความเชื่อจากขอมที่ถือกษัติรย์เป็นสมมติเทพ ทำให้มีการใช้ราชาศัพท์และพิธีการต่างๆในราชสำนัก นอกนั้นประเพณีไม่น้อยได้เข้ามาผสมผสานในหลายเรื่อง เช่น การแต่งงานแบบไทยแต่เลี้ยงแบบฝรั่ง หรือการจับมือกันแทนไหว้ในบางโอกาส
ระยะหลัง สังคมไทยมีการติดต่อกับประเทศที่เจริญกว่ามากขึ้น โดยเฉพาะประเทศตะวันตก และยิ่งเราติดต่อมากขึ้นเท่าไหรเราก็ยิ่งรับอารยธรรมจากเขามากขึ้นเท่านั้น วิถีชีวิตเป็นอยู่จึงเปลี่ยนไปจากเดิมในหลายด้าน
สรุปแล้ว วัฒนธรรมไทยในอดีตและปัจจุบันมีอิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติไม่มากก็น้อย เป็นการผสมผสานกับวัฒนธรรมของเราเองที่มีมาแต่ดั้งเดิม คือเรายอมรับเอาวัฒธรรมที่ดีของชาติอื่นที่เราติดต่อด้วยมาเป็นของเราบ้าง ดัดแปลงบ้าง ให้เข้ากับความเชื่อของไทย จนเป็นวัฒนธรรมที่มีลักษณะแตกต่างกับชาติอื่นๆ โดยในแต่ละยุคแต่ละสมัย ได้พยายามส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมที่ดีงามเหล่านี้ตลอดมา

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น